นี่ล่ะค่ะ เรือนปั้นหยาที่อยู่ด้านหน้าของบริเวณพิพิธภัณฑ์ วันนี้เปิดเห็นไฟสว่างเลยด้านใน
ชานหน้าบ้านกับเก้าอี้หวาย
เพดานชานหน้้าบ้านค่ะ
ห้องนั่งเล่นมีเปียโนอยู่หลังนึงตรงมุมโน้นค่ะ น่าจะเป็นมุมที่ไว้พักผ่อนหย่อนใจ มองตรงไปอีกห้องเป็นห้องรับประทานอาหารค่ะ
ตู้ฝังมุกโชว์ชุดน้ำชา
นี่ไงคะเปียโน
ห้องรับประทานอาหาร
ตู้เก็บถ้วยชาม
ถ้วยโถโอชามที่อยู่ในตู้
บางส่วนของถ้วยชามในตู้โชว์ห้องทานข้าว
อีกกองนึงค่ะ
ตู้โชว์เครื่องแก้ว
ตู้เครื่องแก้ว
แก้วต่างๆ
แก้วไวน์แก้วน้ำ
โทรทัศน์ขาวดำค่ะ
ตู้เย็นสมัยก่อน
ด้านหลังที่เคยเป็นโรงครัว วันนี้คนมาถ่ายรายการเยอะมากค่ะ
เครื่องเล่นแผ่นเสียงสมัยก่อน
ตรงทางพักทางขึ้นบ้านชั้นบนเจอเจ้าเครื่องนี่น่าจะเป็นเครื่องอัดจีบผ้าแบบสมัยแม่พลอยหรือป่าว
ห้องนอนคุณยาย
เตียงคุณยาย
บนเตียงมีสิ่งนี้โชว์อยู่ที่รู้ๆคือพัด ส่วนที่เป็นพู่ๆนั่นน่าจะไว้ปัดแมลงนะ
ตู้ใส่เสื้อผ้ามีหิ้งพระข้างบน
โต๊ะเครื่องแป้ง
มีเตียงเด็กสมัยก่อนอยู่ตรงโถงกลาง
จักรเย็บผ้าสมัยก่อนดิฉันยังทันอยู่นะคะ เคยเห็นคุณแม่ดิฉันเย็บผ้า
ห้องนอนคุณแม่
เตียงในห้องคุณแม่เป็นเครื่องเรือนที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อย
ตู้แบบอีร้อป
โต๊ะเครื่องแป้ง
มองอีกมุม
ตู้ใส่สารพัดกระเป๋า
อ่างล้างหน้าสมัยก่อน เหมือนในเรื่องทวิภพเลย
เดินลงแล้วค่ะ จริงๆข้างบนมีของให้ดูอีกเยอะเชียว
ด้านบนชานหน้าบ้าน
สวิสช์ไฟสมัยก่อน
นี่คือบ้านของคุณหมอฟรานซิส คริสเตียนเป็นบ้านไม้หลังที่สองที่เปิดให้ชม ด้านล่างจะมีรูปวาดมากมายจริงๆค่ะ ขายด้วยนะคะ ส่วนด้านบนก็เป็นห้องนอนของท่านเจ้าของบ้านเดิมเครื่องยังอยู่ค่อนข้างครบค่ะ
ด้านล่างก่อนทางขึ้น
บันได้ทางขึ้น
ขึ้นไปก็เจอรูปปั้นท่านค่ะ
ตู้โชว์
ของในตู้โชว์ค่ะ
เตียงนอนแบบมีเสาสี่มุม
มุมโต๊ะทำงาน
อุปกรณ์การแพทย์
เครื่องใช้ไม้สอยบางส่วนทางการแพทย์
ที่ล้างหน้าล้างตาสมัยก่อน
ตู้ใส่เครื่องมือทางการแพทย์
อาคารไม้หลังที่สามด้านล่างตอนนี้เป็นที่รับบริจาคสมทบทุน มีเสื้อยืดมาขายด้วยสมทบทุนกันไป ส่วนด้านบนท่านเจ้าของท่านอยู่อาศัยค่ะ
ภาพที่เห็นนั้นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้นค่ะ ยังมีของอีกมากมายให้ได้ชมกันอย่างใกล้ๆนะคะ แล้วก็มีป้ายคำอธิบายกำกับแต่ละอย่างให้เราได้อ่านกันอย่างละเอียด ส่วนที่ดิฉันเขียนอธิบายบางอันก็จำได้บางอันก็จำไม่ค่อยได้ว่ามันเป็นอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นอยากเชิญชวนทุกท่านลองไปสัมผัสพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่อบอุ่นร่มรื่นแห่งนี้ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชนชั้นกลางสมัยเมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว เดินเล่นทางนี้เสร็จก็สามารถไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้านน่ารักๆ อย่าง Hobbyist ที่ติดกับโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก หรือจะไปถ่ายรูปกับกำแพงกราฟฟีตี้ที่ซอยเจริญกรุง 32 ก่อนก็ได้ ทั้งหมดนี้สามารถเดินไปถึงกันได้เลยค่ะ เรียกว่าใช้วันหยุดให้คุ้มค่า #เรารักพิพิธภัณฑ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น