ได้เห็นข่าวคราวพิพิธภัณฑ์นี้จากหน้าเฟสบุคและในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ต่างๆ ก็เป็นที่แปลกใจว่าทำไมเราพลาดไปได้ ทั้งๆที่เราขับรถทะลุซอกซอยต่างๆแถวนั้นจนจะหลับตาขับได้แล้วพลาดไปได้อย่างไร พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ในซอยเจริญกรุง 43 ซอยอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับไปรษณีย์กลางแต่เยื้องขึ้นไปอีกนิดหน่อยนะคะ สำหรับคนที่นำรถมาตอนนี้สามารถนำไปจอดที่จอดรถของร้านอาหารดีไลท์คิทเช่นใต้ทางด่วนอยู่ฝั่งขวามือ เค้าคิดชั่วโมงละ 20 บาทค่ะ จอดรถแล้วก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆนะคะ พิพิธภัณฑ์อยู่ทางขวามือเกือบถึงปากซอยที่จะไปถนนมหาเศรษฐ์ เนื่องจากว่าตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์กำลังระดมทุนเพื่อมาซื้อที่ดินที่ติดกันข้างตามที่เป็นข่าวเพื่อเป็นสถานที่จอดรถและอาจจะมีเวิร์คชอปเพิ่มมาด้วย และสิ่งสำคัญคือเค้าไม่อยากให้นายทุนมาสร้างตึกสูงๆบดบังทัศนียภาพอันสวยงามของพิพพิธภัณฑ์ บอกได้เลยว่าข้างในบริเวณพิพิธภัณฑ์ร่มรื่นมาก แค่เดินผ่านเข้าประตูรั้วไปอุณหภูมิก็จะลดลงประมาณนะคะ 1-3 องศาเชียวแหล่ะ เพราะข้างในมีแต่ต้นไม้นานาพันธ์ พิพิธภัณฑ์นี้จริงๆอยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครแล้วนะคะ แต่เจ้าของเดิมเองก็ต้องออกมาคอยดูแลเพื่อไม่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถูกลืมและสุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงไป คงจะเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากทีเดียวสำหรับชาวกรุงเทพฯ วันนี้คงจะมีแต่ภาพภายนอกและบริเวณของพิพิธภัณฑ์มาให้ชม กับ ด้านในบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากวันนี้ปิด เปิดวันพุธถึงวันอาทิตย์ 10.00 น ถึง 16.00 น เวลายืดหยุ่นได้นะคะ ภายในบริเวณของพิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมดสี่อาคารด้วยกัน อาคารแรกจะเป็นอาคารไม้ปั้นหยา อาคารที่สองเป็นเรือนไม้ซึ่งย้ายมาจากบ้านหมอฟรานซิสคริสเตียน ซึ่งเป็นสามีคนแรกของคุณสอางค์ สุรวดี ภายในเรือนไม้นี้จะมีภาพวาดเป็นเหมือน แกลเลอรี่แสดงภาพวาดและก็ขายด้วยนะคะ อาคารที่สามใช้เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการ อาคารที่สี่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงข้างบนเป็นที่พักของเจ้าของบ้านค่ะ

ประตูข้างหน้าค่ะ แต่ไม่ใช้ทางเข้านะคะ
เวลาเปิดปิดของพิพิธภัณฑ์
ด้านหน้ายินดีต้อนรับนักปั่นที่แวะมามีที่จอดจักรยานด้วยค่ะ ลืมถ่ายรูปมาให้ดู
เดินเข้ามาซ้ายมือเป็นสวนร่มรื่นมาก
ขวามือทางเข้า
ตัวอาคารที่หนึ่งค่ะ เสียดายไม่ได้เข้าไปดูฝากเพื่อนๆดูด้วยนะคะ แวะไปกันไม่เสียค่าเข้าเลยค่ะ
ด้านหน้าของอาคารแรก
บ้านวิถีไทย
มองจากตัวบ้านเป็นประตูด้านหน้า
ด้านหลังอาคารแรกเป็นเรือนเปิดแต่ก่อนเป็นเหมือนโรงครัวตอนนี้เอาไว้จัดเสวนาต่างๆค่ะ
คนรับบริจาคและคอยดูและสถานที่ด้วยคุยเป็นนานสองนานลืมถามชื่ออะ
บริจาคเงินเสร็จก็มายืนถ่ายรูปเก่ๆได้นะคะ บริจาคเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ มาช่วยกันนะคะ
อาคารหลังที่สองที่สามารถเข้าไปดูด้านในได้แต่ไม่มีไฟเลยข้างล่างยังพอเห็นอะไรบ้างแต่ข้างบนถ่ายรูปไม่ได้เลยมืดค่ะ ต้องมาวันที่เปิดนะคะ
ภายในอาคารหลังที่สองที่เป็นเรือนไม้เป็นเหมือนแกลเลอรี่โชว์ภาพวาด ภาพวาดสวยๆเยอะเลยขายด้วยนะคะ มีราคาติดอยู่ใครสนใจเชิญเลยค่ะ
มีถ้วยชามเครื่องใช้สมัยก่อนโชว์
อีกมุมภาพสวยอะ อยากได้จัง
เป็นยังไงบ้างคะนี่ขนาดรอบๆบริเวณของพิพิธพัณฑ์นะคะ ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่น่าสนใจให้ดูเยอะเลย อยากเชิญชวนเพื่อนๆชาวบางกอกและไม่ใช่ชาวบางกอกแวะมาเยี่ยมชมและมาช่วยกันสนับสนุนสถานที่นี้พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกให้อยู่คู่กับคนบางกอกไปนานๆนะคะ แวะมาบริจาคแล้วก็เยี่ยมชมไปด้วยเลยค่ะ คุณเค้าอัธยาศัยดีมาก เดี๋ยนแนะนำให้เค้าเปิดเป็นร้านกาแฟแนวแกลเลอรี่ด้วยนะคะ เพื่อจะได้เป็นการหารายได้มาสนับสนุนอีกทาง จะได้มีร้านกาแฟบรรยากาศร่มรื่นแนวฮิปนั่งรอลูกได้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น